คำเตือน 5 สิ่งของในครัวเรือนที่มีสารก่อมะเร็ง: ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นที่คุณต้องรู้
สารก่อมะเร็ง (ฟอร์มาลดีไฮด์) เป็นหนึ่งในสารเคมีอันตรายที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมและในการผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือน จากข้อมูลของสำนักงานวิจัยโรคมะเร็งระหว่างประเทศ (IARC) ระบุว่าฟอร์มาลดีไฮด์จัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 ซึ่งหมายความว่าเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์สูงเมื่อได้รับสารในระยะยาว สารนี้พบได้ทั่วไปในของใช้ในครัวเรือนหลายชนิด ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงผ้า พรม และวอลเปเปอร์ ด้านล่างนี้คือสิ่งของในครัวเรือนทั่วไป 5 ชิ้นที่อาจมีฟอร์มาลดีไฮด์ คุณต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษเพื่อปกป้องสุขภาพของครอบครัว
หัวเตียง – “อ่างเก็บน้ำ” ขนาดใหญ่ที่มีฟอร์มาลดีไฮด์ในห้องนอน
เมื่อตกแต่งห้องนอน หลายๆ คนเลือกหัวเตียงที่มีดีไซน์นุ่มสบาย อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าผลิตภัณฑ์ข้างเตียงหลายชนิดอาจมีฟอร์มาลดีไฮด์เนื่องจากทำจากวัสดุสังเคราะห์หรือเส้นใยเทียม วัสดุเหล่านี้มักจะไม่มีกลิ่นทันที แต่หลังจากใช้งานไปสักระยะ ปริมาณฟอร์มาลดีไฮด์ในสารเหล่านี้จะค่อยๆ กระจายไปในอากาศ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณสัมผัสใกล้ชิดเป็นเวลานาน
คำแนะนำ: เมื่อซื้อหัวเตียงควรตรวจสอบวัสดุของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด หากผลิตภัณฑ์มีแกนฝ้ายหรือวัสดุสังเคราะห์ อาจเป็นแหล่งที่มาของฟอร์มาลดีไฮด์ เลือกหัวเตียงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่มาจากความรับผิดชอบเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสกับสารก่อมะเร็ง
เฟอร์นิเจอร์ไม้ – ศัตรูเงียบของสุขภาพ
เฟอร์นิเจอร์ไม้อัดเป็นทางเลือกยอดนิยมในบ้านหลายหลังเนื่องจากสะดวกและราคาไม่แพง อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีฟอร์มาลดีไฮด์เนื่องจากเป็นกาวที่ใช้ในการผลิต หากเฟอร์นิเจอร์มีกลิ่นแรงหรือใหม่มาก อาจเป็นสัญญาณว่ามีฟอร์มาลดีไฮด์
ฟอร์มาลดีไฮด์สามารถถูกปล่อยออกสู่อากาศระหว่างการใช้งานและเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะกับผู้ที่ระบบทางเดินหายใจอ่อนแอหรือเด็ก
คำแนะนำ: เมื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ควรคำนึงถึงแหล่งกำเนิดสินค้าและการรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ไม้ธรรมชาติหรือไม้อุตสาหกรรมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยและไม่มีสารก่อมะเร็งถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการปกป้องสุขภาพของครอบครัว
วอลเปเปอร์ – สารก่อมะเร็งที่คุณไม่คาดคิด
วอลเปเปอร์ถือเป็นผลิตภัณฑ์ตกแต่งยอดนิยมอย่างหนึ่งของทุกครอบครัว ช่วยให้พื้นที่อยู่อาศัยมีชีวิตชีวาและสวยงาม อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าวอลเปเปอร์หลายประเภทใช้กาวที่มีฟอร์มาลดีไฮด์ สารก่อมะเร็งไม่เพียงมีอยู่ในวอลเปเปอร์เท่านั้น แต่ยังอยู่ในสารเติมแต่งหรือสารเคมีที่ทำให้เกิดการยึดเกาะของกาวด้วย
เมื่อติดวอลเปเปอร์ในพื้นที่ปิด ฟอร์มาลดีไฮด์จะค่อยๆ กระจายไปในอากาศ ส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์
คำแนะนำ: หากต้องการใช้วอลเปเปอร์ ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีใบรับรองความปลอดภัยและรับประกันว่าไม่มีฟอร์มาลดีไฮด์ อีกทางเลือกหนึ่งคือใช้สีผนังธรรมชาติหรือสีปลอดสารพิษซึ่งทั้งปลอดภัยและสวยงาม
ผ้า – ความเสี่ยงจากผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน
หลายครอบครัวใช้ผ้าม่าน เครื่องนอน และพรมปูพื้นเป็นผ้าเพื่อตกแต่งและทำให้พื้นที่นี้น่าอยู่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผ้าบางชนิด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ราคาถูกหรือคุณภาพต่ำ อาจมีสารก่อมะเร็งเนื่องจากการบำบัดผ้าด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มหรือสารกันบูด ฟอร์มาลดีไฮด์สามารถคงอยู่ในผลิตภัณฑ์ผ้าได้เป็นเวลานาน และเมื่อสัมผัสกับผิวหนังเป็นเวลานานก็อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ โดยเฉพาะการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ
คำแนะนำ: ในการเลือกซื้อผ้าให้ครอบครัวควรเลือกสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดชัดเจนจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง หลีกเลี่ยงการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ราคาถูกเกินไปหรือไม่มีฉลากส่วนผสมที่ชัดเจน
พรมเทียม – ความเสี่ยงที่ไม่อาจมองข้ามได้
พรมที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น TPE (Thermoplastic Elastomer) อาจเป็นแหล่งที่มาของสารก่อมะเร็ง ในระหว่างกระบวนการผลิตพรม สารเคมี เช่น กาว เรซินสังเคราะห์ และสารเติมแต่งอื่นๆ จะถูกใช้เพื่อทำให้พรมนุ่มหรือเป็นรูปทรง สารเคมีเหล่านี้อาจมีฟอร์มาลดีไฮด์และถูกปล่อยออกสู่อากาศในพื้นที่อยู่อาศัย
คำแนะนำ: เมื่อซื้อพรม ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ขนสัตว์หรือผ้าฝ้าย หรือเลือกพรมที่ได้รับการรับรองว่าปราศจากสารเคมีที่เป็นพิษ
สรุป
ฟอร์มาลดีไฮด์เป็นสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายซึ่งมีอยู่ในสิ่งของใช้ในครัวเรือนทั่วไปหลายชนิด การทำความเข้าใจและเลือกผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนที่ปลอดภัยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องสุขภาพของทั้งครอบครัว ควรระมัดระวังและตรวจสอบวัสดุและที่มาของผลิตภัณฑ์เสมอก่อนซื้อ อย่าปล่อยให้ของใช้ในครัวเรือนที่มีฟอร์มาลดีไฮด์ทำร้ายคุณและคนที่คุณรัก เพียงใส่ใจเพียงเล็กน้อย คุณก็สามารถสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพสำหรับทั้งครอบครัวได้
ดูเพิ่มเติม: China Tax Law Changes to Address Inequality